หน้าหลัก
KOITHAI










                                              
การดูแล

            ปัจจัยการเลี้ยงปลาแฟนซีคาร์พมีหลายอย่างเช่น น้ำ อากาศ แสงแดด อาหาร อุณหภูมิ และความเอาใจใส่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด กล่าวคือเมื่อคุณมีความเอาใจใส่ดูแลแล้วละก็ปัจจัยอื่นๆคุณก็ต้องสนใจเป็นธรรมดา
น้ำ
            เป็นสิ่งที่สำคัญมากกับปลาทุกชนิด เราต้องเข้าใจถึงธรรมชาติของน้ำที่จะมาใช้เลี้ยงปลาแต่ละชนิดของปลา เพราะน้ำเปรียบเสมือนบ้านของปลานั่นเอง น้ำที่จะนำมาใช้เลี้ยงปลาคาร์พมาจากแหล่งน้ำได้หลายแห่งเช่น น้ำประปา น้ำบาดาล น้ำคลอง น้ำบ่อ น้ำตก เป็นต้น แต่ที่สะดวกที่สุดคือ น้ำประปาที่ผ่านการฆ่าคลอรีนแล้ว และมีค่า pH เป็นกลางที่ pH 7 วิธีง่ายๆในการฆ่าคลอรีนก็คือ ให้น้ำประปาผ่านเครื่องกรองน้ำที่มีถ่านคาร์บอนเป็นตัวกรอง โดยปล่อยให้น้ำไหลผ่านกรองช้าๆ และควรทดสอบคลอรีนทุกครั้งก่อนนำน้ำมาเลี้ยงปลา หรือเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อปลา ในกรณีที่ไม่ต้องการใช้น้ำประปา ก็ใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้ แต่แหล่งน้ำจากธรรมชาติจะมีความเป็นกรดเป็นด่างซึ่งจะมีผลต่อสีปลา โดยทำให้ปลาสีซีด และน้ำจากธรรมชาติบางแหล่ง อาจมีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลงซึ่งเป็นอันตรายต่อปลาคาร์พมาก และแหล่งน้ำธรรมชาติอาจเป็นพาหะของโรคมาอีกด้วย ฉะนั้นน้ำประปาจึงเป็นน้ำที่เหมาะสมที่สุดที่จะนำมาใช้ในการเลี้ยงปลาคาร์พ ในการเปลี่ยนถ่ายน้ำแต่ละครั้ง ไม่ควรเปลี่ยนทีเดียวจนหมดทั้งบ่อ ควรจะเปลี่ยนน้ำโดยให้เหลือน้ำเก่าไว้ประมาณ 2 ใน 3 ของปริมาณน้ำเดิม และเติมน้ำใหม่ลงไป 1 ใน 3 เพราะจะทำให้ปลาปรับตัวได้ และไม่เกิดอาการช็อกน้ำ

อากาศ หรือออกซิเจน
            จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของปลาคาร์พมาก สังเกตได้จากการที่ปลาคาร์พว่ายน้ำ ถ้าว่ายน้ำอยู่ในน้ำแล้วจะลอยหัวขึ้นมาเฉพาะตอนกินอาหาร ก็ถือว่าออกซิเจนไม่ขาด แต่ถ้าปลาคาร์พลอยหัวอยู่ตลอดแสดงว่าอากาศหรือออกซิเจนเริ่มขาดต้องรีบทำการเติมอากาศทันที ทางที่ดีควรจะทำการเติมอากาศไว้อยู่ตลอดเวลา โดยการที่ให้น้ำดีจากบ่อกรองที่จะมาในบ่อเลี้ยง ได้สัมผัสอากาศเสียก่อนที่จะ ปล่อยลงบ่อ โดยยิงน้ำลงบ่อเลี้ยงเพื่อให้เกิดฟองอากาศ หรือใช้ปั๊มอากาศปั๊มลงโดยตรงเลยก็ได้แต่ถ้าบ่อใหญ่มากๆ ควรใช้หัวเจ็ทพ่นน้ำเพราะหัวเจ็ทจะดูดออกซิเจนในอากาศลงไปผสมกับน้ำได้เป็นอย่างดี บ่อที่สร้างแบบมีน้ำตกด้วยจะช่วยให้มีออกซิเจนมาเพิ่มในน้ำดีขึ้น เนื่องจากน้ำที่ไหลลงมาตามแนวน้ำตกจะได้สัมผัสอากาศก่อนลงบ่อนั่นเอง
อาหาร
            ปลาคาร์พมีนิสัยที่น่ารักอยู่อย่างหนึ่งคือ เมื่อเชื่องแล้วปลาคาร์พจะว่ายมามองหน้าแล้วทำปากอ้าเหมือนจะรู้ว่าเราต้องใจอ่อนให้อาหารอย่างแน่นอน แต่อย่าใจอ่อนทุกครั้งไปเพราะว่าจะทำให้รูปทรงปลาเสียได้ และถ้าเราให้มากจนเหลือก็จะทำให้น้ำเสียเร็ว ฉะนั้นการให้อาหารจึงควรให้พอดีดังนี้ ให้อาหารตามน้ำหนักของปลา คือ 2-4 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวปลาต่อวัน โดยให้วันละ 2 ครั้งในตอนเช้าและบ่าย ควรจะให้ปลาคาร์พกินอาหารหมดภายใน 20 นาที ถ้าเหลือควรตักทิ้งเพราะจะทำให้น้ำไม่เสียเร็ว ไม่ควรให้อาหารปลาในเวลาเย็นมากเกินไป เพราะในตอนเย็นออกซิเจนในน้ำมีปริมาณลดลงมากอาจเป็นอันตรายกับปลาได้ อุณหภูมิของน้ำก็มีส่วนในการลดหรือเพิ่มปริมาณอาหาร ในฤดูร้อนปลาคาร์พมักจะกินอาหารได้มาก แต่ถ้าวันใดที่อากาศร้อนมากๆก็ควรงดอาหาร ส่วนในฤดูหนาวปลาคาร์พก็จะกินอาหารน้อยและวันใดที่อากาศเย็นมากๆ ต่ำกว่า 7 องศาเซลเซียส ให้งดอาหาร
            ปลาคาร์พเป็นปลาที่กินอาหารได้หลายชนิดทั้งอาหารสดและพืช เช่น ข้าวโพดบด ข้าวสาลี กะหล่ำปลี สาหร่าย แหน ข้าวเหนียวนึ่ง ขนมปัง ลูกน้ำ ลูกไร กุ้งสด หอย ปลาหมึก เป็นต้น แต่ที่นิยมใช้เลี้ยงมากที่สุดคืออาหารเม็ดลอยน้ำ เพราะสะดวกและหาง่ายอาหารเม็ดลอยน้ำบางชนิดก็มีส่วนผสมของพืชและเนื้อสัตว์เช่น กุ้งแห้ง เป็นต้น อาหารบางชนิดยังอาจผสมสปิรูลิน่าหรือสาหร่ายเกลียวทองที่เรียกว่าอาหาร 10 เปอร์เซ็นต์ (อาหารที่มีส่วนผสมของสาหร่ายสปิรูลิน่าอยู่ในอาหารในปริมาณ 10 เปอร์เซ็นต์) มีผลต่อสีของปลาด้วยเพราะสปิรูลิน่าจะเป็นตัวช่วยให้สีของปลาคาร์พเข้มดูสวยงาม
แสงแดด-อุณหภูมิ
            ที่ที่ดีสำหรับบ่อปลาคาร์พคือ ที่ที่มีแสงแดดส่องถึง ไม่ควรต่ำกว่า วันละ 3 - 4 ชม. แต่ก็ไม่ควรให้แดดลงบ่อเต็มๆ ทั้งวัน ควรหาร่มเงาให้ปลาได้หลบพักบ้าง อากาศก็ควรจะถ่ายเทได้ดี ไม่ควรอยู่ใกล้ครัวเพราะควันจากการทำอาหารอาจลงไปในบ่อทำให้น้ำมีคราบมัน บ่อที่ดีควรขุดลงไปในดินจะดีกว่าทำบ่อลอย เพราะอุณหภูมิของน้ำในบ่อฝังดินจะเปลี่ยนแปลงช้าและต่ำกว่าบ่อลอย ปลาคาร์พมักชอบน้ำอุณหภูมิต่ำ (20-25 องศาเซลเซียส)
                     


koithai@hotmail.com